โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis) กระเพาะปัสสาวะอักเสบอาจจะเกิดขึ้นโดยการได้รับเชื้อแบคทีเรียมาจากท่อทางเดินปัสสาวะ จึงก่อให้เกิดความผิดปกติของทางเดินกระเพาะปัสสาวะ ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และยังสามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย

ในระบบขับถ่ายปัสสาวะจะมีไตเป็นตัวกรองของเสียในเลือดและควบคุมระดับความเข้มข้นของสารต่าง ๆ ในร่างกาย หลังจากนั้นจะนำส่งของเสียผ่านท่อไต และลงไปเก็บที่กระเพาะปัสสาวะ แล้วจึงจะขับของเสียออกมาผ่านทางท่อปัสสาวะ บางรายอาจจะเกิดการติดเชื้อและแพร่กระจายไปสู่กระเพาะปัสสาวะและมายังไต จึงอาจส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา แต่สามารถพบได้ในปริมาณที่น้อยมาก

ลักษณะอาการโรคปัสสาวะอักเสบเป็นอย่างไร ?
ผู้ที่ปัสสาวะบ่อยๆจะรู้สึกแสบขณะปัสสาวะ และอาจจะมีเลือดเจือปนมา รวมไปถึงน้ำปัสสาวะของเราอาจจะออกมาในปริมาณที่น้อยและสีเข้ม และมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ

สาเหตุโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเกิดจากอะไรบ้าง ?
สาเหตุที่สามารถพบได้มากที่สุด คือ เกิดการติดเชื้ออีโคไลในทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเชื้อประเภทนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายของเราได้หลายทาง เช่น เช็ดก้นจากด้วนหลังมาข้างหน้า การมีเซ็กส์ ใช้ผ้าอนามัยแบบสอด แต่การเกิดโรคยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งนี้แล้ว อาจจะเกิดมาจากสาเหตุอื่นที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง หรือการใช้ครีมตรงจุดลับต่างๆ หรือการฉายรังสีบริเวณกล้ามเนื้อเชิงกราน หรืออาการแทรกซ้อนจากโรคต่างๆที่เราเป็นอยู่

ผลการวินิจฉัยโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
คุณหมอจะสอบถามอาการผิดปกติของผู้ป่วยเบื้องต้น และประวัติการเข้ารักษาต่างๆ การตรวจร่างกาย ตรวจปัสสาวะ อาจจะพบสิ่งแปลกปลอมเจือปนอยู่ในน้ำปัสสาวะ เช่น เชื้อโรค เพื่อที่จะค้นหาสาเหตุที่เกิดการติดเชื้อ ในบางรายผู้ป่วยอาจจะมีอาการที่รุนแรง คุณหมออาจจะต้องใช้วิธีอื่นเพิ่มเติมในการตรวจ เช่น การสอดกล้องในท่อทางเดินปัสสาวะ หรือการตัดชิ้นเนื้อส่วนที่ติดเชื้อมาตรวจ เพื่อที่จะวินิจฉัยความผิดปกติของท่อทางเดินปัสสาวะ อาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายชนิดอื่นที่กำลังจะตามมา เมื่อพบว่าโครงสร้างเนื้อเยื้อมีความผิดปกติไปตรวจหรือพบก้อนเนื้อร้าย

ระบบทางเดินปัสสาวะ ชาย หญิง

โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบรักษาอย่างไร ?
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเกิดจากการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะและสามารถรักษาได้โดยการรับประทานยา เช่น ยาไนโตรฟูแรนโทอิน ในผู้หญิงที่กำลังเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนอาจจะใช้ยาทาบริเวณช่องคลอดเพื่อช่วยลดการติดเชื้อจะเป็นยาที่เป็นฮอร์โมนทดแทนเอสโตรเจน ถ้าพบว่าเกิดการติดเชื้อซ้ำ คุณหมอจะตรวจทางเดินปัสสาวะเพื่อที่จะดูความผิดปกติของท่อปัสสาวะ

โดยกินยาปฏิชีวนะควบคู่ไปด้วย และระยะเวลาในการรับประทานยาก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพของผู้ป่วยด้วย โดยรวมขึ้นอยู่กับชนิดของแบคทีเรียที่ปนมากับในปัสสาวะ ในกรณีที่เกิดจากสาเหตุอื่นคุณหมอก็จะรักษาตามอาการโดยดูจากต้นเหตุของการติดเชื้อและให้เราเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะกระตุ้นให้เกิดโรคหรืออาการรุนแรง นอกจากนี้แล้ว โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบสามารถหายเองสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงมาก และไม่ได้อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือมีโรคประจำตัวต่างๆ เพราะว่าภูมิคุ้มกันของร่างกายนั้นจะค่อยๆกำจัดเชื้อโรคที่อยู่ในร่างกายของเราออกจนหมด แต่อาการเหล่านี้ยังคงอยู่ได้ในร่างกายเราถึง 2-3 วัน หรือผู้ป่วยบางรายนั้นใช้เวลานานหลายสัปดาห์ หากต้องการให้หายเร็วขึ้น คุณหมอก็จะแนะนำให้กินยา

อาการแทรกซ้อนโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบมีอะไรบ้าง ?
ถ้าหากให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรังนั้นจะช่วยกระตุ้นให้ความเสี่ยงนั้นเพิ่มมากขึ้นที่และก่อให้เกิดกรวยไตอักเสบ ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่างๆภายในไต

กลุ่มเสี่ยงสูงที่อาจก่อให้เกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
1. ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ โดยอาจจะพบได้แต่เป็นส่วนน้อยที่มักจจะเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
2. ผู้ที่ทำการสวนปัสสาวะแล้วคาสายไว้ในองคชาติ
3. เพศหญิงนั้นมีความเสี่ยงสูงกว่าเพศชายที่จะเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เพราะว่าท่อปัสสาวะของเพศหญิงนั้นสั้นกว่าของเพศชาย และจุดของรูปัสสาวะของเพศหญิงอยู่ใกล้กับบริเวณทวารหนักมากที่สุด จึงจะเสี่ยงมากที่จะได้รักเชื้อเข้าสู่ระบบทางเดินปัสสาวะได้ง่ายกว่าเพศชาย ทั้งนี้ยังมีเพศหญิงเกือบครึ่งนึงที่เคยเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบมาก่อน และในช่วงอายุ 22-24 ปีนั้น อาจจะเป็นได้ 1 ใน 4 คน
4. ผู้ที่คุมกำเนิดโดยการใช้ยาฆ่าน้ำอสุจิภายในช่องคลอด
5. เกิดจากโรคประจำตัวหรือความผิดปกติของร่างกายและการทำงานของไต กระเพาะปัสสาวะ
6. เพศหญิงหลายๆที่กำลังเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื้อบริเวณอวัยวะเพศและท่อปัสสาวะขึ้น และจะทำให้ไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคต่างๆได้ไม่ดี
7. ภูมิคุ้มกันของร่างกายเราทำงานผิดปกติ เช่น การใช้ยารักษาโรคที่มากดระบบภูมิคุ้มกันของเรา
8. การมีสัมพันธ์

วิธีดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
โรคกระเพาะปัสสาวะอาจจะป้องกันบางกรณีเท่านั้น แต่ก็จะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปัสสาวะและควรรักษาความสะอาดอย่างดีหลังจากขับถ่ายเสร็จตามคำแนะนำของคุณหมอ ได้แก่
1. เราไม่ควรกลั้นปัสสาวะไว้เป็นเวลานาน และควรดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน เพื่อที่จะลดการสะสมของเชื้อโรคในกระเพาะปัสสาวะ
2. ควรทำความสะอาดอวัยวะทุกครั้งหลังจากขับถ่ายเสร็จ
3. ควรปัสสาวะหลังจากการมีเพสสัมพันธ์ โดยวิธีดื่มน้ำให้เยอะๆ เพื่อที่จะช่วยให้เรารู้สึกปวดปัสสาวะเร็วขึ้น เพื่อที่จะกำจัดเชื้อโรคต่างๆ
4. สวมใส่เสื้อที่มีระบายอากาศได้ดี ไม่กักเก็บความอับชื้น
5. เปลี่ยนมาอาบน้ำกับฝักบัวแทนการที่เราจะลงไปแช่ในอ่าง เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายมาก
6. หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งต่างๆ ที่มีส่วนผสมเป็นสารเคมีบริเวณอวัยวะเพศ เช่น สบู่ แป้ง หรือสบู่อาบน้ำที่ผสมด้วยสารเคมีเช่น น้ำหอม แต่เราก็ควรดูก่อนที่จะเลือกมาใช้ว่าผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนผสมอะไรบ้าง
7. ควรทำความสะอาดทวารหนักจากด้านหน้าไปด้านหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายจากทวารหนักไปยังอวัยวะเพศได้ง่าย

รับคำปรึกษาเบื้องต้น กับ “หมอเบียร์” ฟรี

สอบถามข้อมูลการรักษาและบริการเพิ่มเติม นัดหมายล่วงหน้า การเดินทางมาคลินิก
LINE:@ETERNITYCLINIC1
Facebook:@Eternityclinicthaiสืบพงษ์ เอ่งฉ้วน

นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน “หมอเบียร์”
ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์เพศชาย (Urologist)
ศัลยกรรมทั่วไป (General surgeon)